หน้าเว็บ

Lecture


บทที่7 การออกแบบเว็บไซตืให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม
( Design for a variety of Web Environments )
ปัจจัยหลักที่เกี่ยวข้องกับการท่องเว็บไซต์
1. เบราเซอร์ที่ใช้
2. ระบบปฏิบัติการของคอมพิวเตอร์
3. ความละเอียดของหน้าจอ
4. จำนวนสีที่จอของผู้ใช้สามารถแสดงได้
5. ชนิดของตัวอักษรที่มีอยู่ในเครื่องของผู้ใช้
6. ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
7. ขนาดหน้าต่างเบราเซอร์
8. ความสว่างและค่าความต่างของโทนสี
 1.เบราเซอร์ที่ใช้เบราเซอร์ที่ได้รับความนิยม Internet Explorer,Netscape Navigator,
 The World,Opera,Mozilla,Firefox
การออกแบบเว็บไซต์ตามคุณสมบัติของเบราเซอร์
- เว็บไซต์สำหรับเบราเซอร์ทุกรุ่น
- เว็บไซต์สำหรับเบราเซอร์รุ่นล่าสุด
- เว็บไซต์ตามความสามารถของเบราเซอร์
- เว็บไซต์ที่มีหลายรูปแบบ
2. ระบบปฏิบัติการระบบปฏิบัติการเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการทำงานของเบราเซอร์มาก
โดยแต่ละระบบปฏิบัติการจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของชนิด และรุ่นของเบราเซอร์
ที่ใช้ ระดับความระเอียดของหน้าจอ เป็นต้น
3. ความละเอียดของหน้าจอ
ความละเอียด 640*480 หมายถึง หน้าจอมีจุดพิกเซลเรียงตัวตามแนวนอน
640 พิกเซล และตามแนวตั้ง 480 พิกเซล ความละเอียดหน้าจอจะไม่ขึ้นอยู่
กับขนาดของมอนิเตอร์ที่ใช้ แต่จะขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของการ์ด
4. จำนวนสีที่จอของผู้ใช้สามารถแสดงได้- มอนิเตอร์สามารถแสดงสีที่แตกต่างกัน
อยู่กับประสิทธิภาพของการ์ดจอ
- หน่วยความจำในการ์ดจอที่มากขึ้นจะทำให้สามารถแสดงสีได้มากขึ้น
5. ชนิดของตัวอักษรที่มีอยู่ในเครื่องของผู้ใช้
เบราเซอร์จะแสดงฟอนต์ที่กำหนดไว้ในเว็บเพจได้ก้ต่อเมื่อคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นมี
ฟอนต์เหล่านั้นติดตั้งอยู่ในเครื่อง MS Sans Serif VS Microsoft Sans Serif
-MS Sans Serif เป็นฟอนต์แบบบิตแมพที่ออกแบบขึ้นจากจุดของพิกเซล โดยมี
การออกแบบแต่ละตัวอักษรไว้เป็นขนาดที่แน่นอน
- Microsoft Sans Serif เป็นฟอนต์ที่มีโครงสร้างของอักขระแบบเวคเตอร์หรือลายเส้น
โดยมีการออกแบบเอาท์ไลน์ไว้เพียงแบบเดีแต่สามารถปรับขนาดได้อย่างไม่จำกัด
ข้อดี
สามารถกำหนดลักษณะของตัวอักษรได้อย่างแน่นอน ทั้งขนาด สี และชนิด
ผู้ชมทุกคนจะมองเห็นเหมือนกันหมด
ข้อเสีย
ใช้เวลาในการโหลดมากกว่า
ลำบากในการแก้ไขและเปลี่ยนแปลง
6. ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
ความเร็วของเน็ตจะมีผลต่อการแสดงผลของเว็บ ซึ่งจะมีหลายระดับ
- ผู้ใช้ตามบ้านส่วนใหญ่จะใช้ความเร็ว 5 kbps
- ในหน่วยงานบางแห่งอาจจะใช้อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง เข่น ADSL,
    Cable modem ซึ่งมีความเร็วตั้งแต่ 128 Kbps ถึง 10 Mbps
7. ขนาดหน้าต่างเบราเซอร์
ขนาดหน้าต่างของเบราเซอร์มีโอกาสที่จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นเท่าไหร่ก็ได้ตามความต้องการของผู้ใช้

- - - - - - - - - - -- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -




บทที 8 เลือกใช้สีสำหรับเว็บไซต์(Designing Web Colors)

           การเลือกใช้สีสันในเว็บเพจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดึงดูดความสนใจของผู้ใช้ เนื่องจากสิ่งแรกที่ผู้ใช้มองเห็นจากเว็บก็คือสี ซึ่งเป็นสิ่งกำหนดบรรยากาศและความรู้สึกของเว็บไซต์

-ประโยชน์ของสีในเว็บไซต์
    สามารถชักนำสายตาอ่านในไปยังข้อมูลได้
    สามารถเชื่อมโยงบริเวณที่ได้รับการออกแบบเข้าด้วยกัน
    สามารถแยกส่วนต่างๆออกจากกันได้ง่าย
    สามารถดึงดูดความสนใจของผู้อ่าน
    ช่วยสร้างระเบียบให้คับข้อความต่างๆ

-แม่สีขึ้นต้นมี 3 สี
สีแดง
สีเหลือง
สีน้ำเงิน

-การผสมสี(Color Mixing)
       มี 2แบบ
   1.การผสมแบบบวก เป็นการผสมของแสง ไม่ใช่การผสมของวัตถุที่มีสีงบนกระดาษ นำไปใช้กับ จอโปรเจคเตอณื ทีวี หรือจอมอนิเตอร์
   2.การผสมแบบลบ เป็นการผสมไม่เกี่ยวกับแสง แต่เกี่ยวกับการดูดกลืนและสะท้อนแสงของวัตถุต่างๆ การนำไปใช้งาน ภาพวาดของศิลปิน

-วงล้อสี (Color wheel)
   เป็นรูปแบบหนึ่งในการจัดเรียงสีทั้งหมดไว้ในวงกลม และเป็นการจัดลำดับเฉดสีอย่างมีเหตุผลและง่ายต่อการนำไปใช้จะมี
   1.วงล้อสีแบบลบ
   2.วงล้อสีแบบบวก

-สีที่เป็นกลาง(Neutral Colors)
    คือกลุ่มสีที่ไม่ได้ถูกบรรจุไว้ในวงล้อสี เพราะเป็นสีที่ไม่ได้รับอิทธิพลมากจากสีอื่น ซึ่งสีเทา ขาว ดำ

-สีอ่อน สีเข้ม และโทนสี
    ในการผสมสีกลางเข้าก้บสีบริสุทธ์จะเกิดเป็นสีต่างๆ จำนวนมาก เช่น สีบริสุทธิ์ผสมกับสีขาว จะได้เป็นสีอ่อน สีบริสุทธิ์ผสมสีเทา จะได้เป็นโทนสีระดับต่างๆๆ
    สีบริสุทธิ์กับสีดำจะได้เป็นสีเข็ม

-รูปแบบชุดสีสามารถจัดเป็นกลุ่มง่ายดังนี้
   1.ชุดสีร้อนประกอบไปด้วยสีม่วงแกมแดง แดงแกมม่วง แดง ส้ม เหลือง และเขียวอมเหลือง สีเหล่านี้สร้างความอบอุ่น สบาย
    2.ชุดสีเย็น ประกอบด้วยสีม่วง น้ำเงิน น้ำเงินอ่อน ฟ้า น้ำเงินแกมเขียว และสีเขียว ชุดสีเย็นให้ความรู้สึกเย็นสบาย ดูสุภาพ เรียบร้อย
    3.ชุดสีแบบเดียว เป็นรูปแบบชุดสีที่ง่ายที่สุด คือมีค่าของสีบริสุทธิ์เพียงสีเดียว แต่งเพิ่มความหลากหลายโดยการเพื่มความเข็มอ่อนในระดับต่างๆ
      ชุดสีนี้จะค่อนข้างมีความกลมกลืนเห็นหนึ่งเดียว แต่งบางครั้งดูไม่มีชีวิตวีวา
    4.ชุดสีแบบสามเส้า เป็นชุดสีที่อยู่มีมุมของสามเหลื่ยมด่านเท่าทั้งสาม ซ้นเป็นสีที่มีระยะห่างในวงล้อสีเท่ากัน จึงมีความเข้ากันอย่างลงตัว
    5.ชุดสีที่คล้ายคลึงกัน ประกอบด้วยสี 2 หรือ 3สีที่อยู่ติดกันในวงล้อ สามารถเพิ่มเป็น 4 หรือ5 สีก็ได้ แต่อาจส่งผลให้ขอบเขตของสีกว้างไป
    6.ชุดสีตรงข้าม คือสีคุ่ที่อยู่ตรงข้ามกันในว้อล้อ เมื่อนำสีทั้งสองมาใช้คู่กันจะทำให้สีทั้งสองมีความสว่างสดใ
    7.ชุดสีตรงข้ามข้างเคียง เป็นชุดสีที่เปลี่ยนแปลงมาจากชุดสีตรงข้าม ชุดสีแบบนี้มความสดใส สะดุดตา และเข้ากันของสีลดลงด้วย
    8.ชุดสีตรงข้ามข้างเคียงทั้ง 2 ด้าน ดัดแปลงมาจากชุดสีตรงข้างเช่นกัน แต่สีตรงข้างทั้ง 2 สีถูกแบ่งแยดเป้ฯสีด้านข้างทั้สง 2 ด้าน
      จะมีความสดใส แต่ความกลมกลืนของสีลดลง

- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -


บทที่ 10 การจัดรูปแบบตัวอักษรสำหรับเว็บไซต์
ตัวอักษรมีความสำคัญในการสื่อข้อความถึงผู้ใช้
แต่ละชนิดจะให้อารมณ์และความรู้สึกที่แตกต่างกัน ควรเลือกใช้ตัวอักษรให้เหมาะสมกับเนื้อหา
รูปแบบตัวอักษร แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ
1. ตัวอักษรที่มีขนาดสัมพันธ์กับรูปร่าง หรือตัวอักษรที่มีขนาดไม่คงที่
ตัวอักษรแต่ละตัวมีพื้นที่ตามแนวนอนไม่เท่ากัน ขึ้นกับรูปร่างของตัวอักษรนั้น
 - สิ่งพิมพ์ที่ผลิตด้วยคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะใช้ตัวอักษรนี้เพื่อให้ดูเหมาะสมและอ่านง่าย
2. ตัวอักษรที่มีขนาดคงที่
มีพื้นที่ตามแนวนอนเท่ากันหมด เป็นรูปแบบที่เรียบง่าย คล้ายตัวพิมพ์ดีด
ตัวอักษรประเภท serif และ sans-serif
ตัวอักษรประเภท serif  
มีลายเส้นเพิ่มขึ้นที่ส่วนปลาย  
เช่น Times New Roman , Garamond, Georgia เป็นต้น  
เหมาะจะใช้ในส่วนที่เป็นรายละเอียดเนื้อหา ไม่เหมาะกับการใช้เป็นตัวหนา
ตัวอักษรประเภท sans-serif
ไม่มีลายเส้นตกแต่งติดอยู่กับตัวอักษร
เช่น Arial, Verdana, Geneva
เหมาะที่จะใช้กับหัวข้อหรือตัวอักษรขนาดใหญ่
 - ไม่เหมาะกับลักษณะเอียงเพราะจะทำให้รูปร่างเปลี่ยนไปมาก
ความสะดวกในการอ่าน (Legibility)
หลีกเลี่ยงการใช้คำที่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด เพราะจะทำให้อ่านยาก และลดความสะดุดตาลง
 - การใช้ตัวพิมพ์เล็กทั้งหมดในประโยค จะสร้างความรู้สึกไม่เป็นทางการ และแสดงถึงความไม่ สมบูรณ์ของเนื้อหา
ใช้ตัวพิมพ์ใหญ่สำหรับตัวอักษรแรกของแต่ละคำในประโยค ควรใช้อย่างจำกัด
สิ่งที่ไม่ควรทำคือการแบ่งครึ่งตัวอักษร เพราะจะทำให้ภาพรวมของตัวอักษรขาดหายไป และ ยากต่อการอ่าน
 การจัดข้อความในหน้าเว็บ
การจัดตำแหน่ง -
 ในภาษา HTML สามารถจัดตำแหน่งตัวอักษรได้ด้วยคำสั่ง Align และสามารถเลือกค่าเป็น left, right, center, justify ช่วงว่างระหว่างตัวอักษร และช่วงว่างระหว่างคำ
 - ตัวอักษรบางคู่ที่อยู่ติดกันอาจมีระยะที่ไม่เหมาะสม จึงต้องมีการ Kerning เพื่อที่สายตาจะได้
การจัดตำแหน่งแบบ justify ทำให้เกิดช่องว่างที่ไม่สวยงามได้ ระยะห่างระหว่างบรรทัด
เนื้อหาที่มีปริมาณมาก ควรมีระยะห่างระหว่างบรรทัดมาก เพื่อเพิ่มความสะดวกในการอ่านเป็น เวลานาน
ความยาวหน้าเว็บ
 - หน้าเว็บที่ยาวมากๆ จะทำให้ผู้ชมรู้สึกเหนื่อยล้าที่จะอ่าน
ควรจัดแบ่งเป็น paragraph หรือตัดแบ่งเป็นหลายๆหน้า
ขนาดของตัวอักษร
ใช้ตัวอักษรหลายขนาดเพื่อสร้างลำดับความสำคัญของข้อมูล  
ใช้ตัวอักษรขนาดใหญ่เริ่มต้นประโยค และอาจใช้รูปแบบของการสลับสี
การเน้นข้อความให้เด่นชัด
ใช้ขนาดและน้ำหนักของตัวอักษร การทำตัวเอียง ขีดเส้นใต้ ตำแหน่งของตัวอักษร แนวทาง ของตัวอักษร พื้นที่ว่าง
การใช้สีกับตัวอักษร
กำหนดสีหลักสำหรับเว็บ
ใช้สีของตัวอักษรอย่างมีความหมายสม่ำเสมอ
ใช้สีที่แตกต่างกันในแต่ละส่วนของข้อมูล
กำหนดสีของ link ให้เหมาะสม
การกำหนดขอบแบบ Aliased และ Anti-aliased
- Aliased คือลักษณะขอบที่เป็นรอยหยักๆ
- Anti-aliased ใช้เทคนิคของโทนสีเข้ามาช่วย ด้วยการเพิ่มสีที่อยู่ระหว่างสีของตัวอักษรจะทำให้ ขอบดูเรียบขึ้น
คำแนะนำในการใช้ตัวอักษรในเว็บเพจ
ไม่ควรใช้ตัวอักษรที่หายากหรือไม่ได้มาพร้อมกับโปรแกรมต่างๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น